| ||||||||||||||||||||||
ข้อมูลและภาพประกอบจาก http://crafts.kaboose.com |
วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2552
หมวกโจรสลัด
หรีดแขวนตกแต่งประตู
ธรรมเนียมฝรั่งจะมีเครื่องแขวน หรือพวงหรีดประดับประตูบ้านตามเทศกาลต่างๆ ลองให้เด็กๆทำพวงหรีดประดับแบบง่ายๆดูบ้างไว้แขวนหน้าห้องนอน
อุปกรณ์
- กระดาษแข็ง เพื่อทำโครง
- กระดาษโปสเตอร์ 2 สีตามชอบ
- กระดาษสำน้ำตาลเพื่อตัดตัวกระรอก
- กาว , กรรไกร
1. สร้างโครงพวงหรีดด้วยการวาดวงกลมโดยใช้จาน 2 ขนาด แล้วตัดตามรูป | |
2. ติดกระดาษโปสเตอร์ให้สวยงาม หากจะทำให้ด้านหลังทึบก็ติดกระดาษให้เต็มแผ่นหลัง 1 ด้าน | |
3. ทำลอนม้วนนำกระดาษโปสเตอร์มาตัด กว้าง 1 1/4 นิ้ว ยาว 4 นิ้ว แล้วติดกาวสลับสี ดังตัวอย่าง |
print แบบรูปกระรอกลงบนกระดาษสีน้ำตาล
ตัดออกมาประกอบกันแล้วติดไว้ที่กลางด้านล่าง
เข็มกลัดหัวใจ
อุปกรณ์
- ปูนปลาสเตอร์
- อ่างผสม และช้อนผสม
- แบบพิมพ์รูปหัวใจ สามารถใช้ถาดวุ้น , ช็อคโกแลต
- สีอะคลิลิคสีสดใสตามชอบ
- สเปรย์เคลือบเงา
- เข็มกลัด
วิธีทำ
- ผสมปูนปลาสเตอร์กับน้ำในอ่านผสม คนให้เข้ากัน
- หยอดส่วนผสมลงใบแบบพิมพ์พลาสติก ระวังอย่าให้ล้นหรือสูงกว่าขอบ
- ทิ้งไว้ให้ปูนเซตตัว 1- 2 นาที วางเข็มกลัดลงไปตามรูป
- เมื่อแห้งดีแล้วนำออกจากพิมพ์
- ระบายสีตกแต่ง ทิ้วไว้จนแห้งสนิท
- เมื่อสีแห้งสนิท พ่นสเปร์ยเคลือบเงาทับ
กระถางใส่ดอกไม้ประดิษฐ์
อุปกรณ์
วิธีทำ
Tips:
| |
ครอบครัว Lady Bug
มาทำหินทับกระดาษ Ladybug ให้คุณแม่กันนะ
อุปกรณ์
วิธีทำ
Tips:
| |
Box Monster
อุปกรณ์
- กล่องกระดาษ เช่น กล่องขนม , กล่องทิชชู ,
- กระดาษโปสเตอร์สีฟ้าอ่อน 2 แผ่น
- กระดาษโปสเตอร์สีขาว และ ดำ อย่างละ1/4 แผ่น
- รังไข่กระดาษ ตัดแยกป็นช่อง 2 ชิ้น
- สีอะคลิลิค สีดำ และ ขาว
- กาว , กรรไกร
- สีเมจิสีดำ (วาดฟัน)
- สีโปสเตอร์ เพื่อทำลวดลายของ Monster ตามชอบ
วิธีทำ
- นำรังไข่กระดาษ ที่ตัดไว้มาทาสีขาวให้ทั่ว ทิ้งไว้ให้แห้ง
- นำกล่องทิชชูมาเจาะส่วนที่จะเป็นปาก
- ห่อด้วยกระดาษโปสเตอร์สีฟ้า โดยเจาะส่วนปากเช่นกัน ควรเหลือขอบกระดาษเล็กน้อยแล้วติดกาว
พับซ่อนไว้ด้านใน
- ตัดกระดาษสีขาวเป็นแนวค้าคล้ายรูปกล้วย 2 ชิ้น แล้วใช้สีเมจิขีดเป็นแนวฟัน
- ติดส่วนของฟันบน-ล่างกับขอบด้านใน
- ตัดกระดาษสีฟ้าเพื่อทำเท้า 2 ชิ้น (อย่าลืมเหลือพื้นที่เพื่อติดกาว) ติดเล็บด้วยกระดาษสีขาวเล็กๆ
- ติดส่วนเท้าเข้ากับด้านล่างของกล่อง
- นำรังไข่ในข้อ 1 มาวาดจุดสีดำตรงกลางเพื่อเป็นตา
- แต่งขนตาด้วยแถบกระดาษสีดำตัดแหลม ติดกาวให้เรียบร้อย
- ทำหางโดยใช้กระดาษ สีฟ้า ตัดรูปร่างตามชอบ แล้วติดกาวไว้ด้านข้างค่อนไปทางหลังกล่อง
- ตกแต่งลวดลายด้วยสีโปสเตอร์
Tips:
ลองสร้างสัตว์ประหลาดใหม่ๆด้วยวัสดุอื่น เช่น ถ้วยโจ๊ก กล่องหลายๆขนาด
หมวกแมกซิกัน
อุปกรณ์
- กระดาษหนังสือพิมพ์ 4-5 แผ่น
- กระดาษห่อของขวัญ 1 แผ่น ขนาดเดียวกับกระดาษหนังสือพิมพ์ หรือจะพ่นสีตามตัวอย่างก็ได้
- กระดาษกาว
- กรรไกร , ที่เจาะรูกระดาษ แบบ 1 รู
- เชือกสวยๆ หรือโบว์
วิธีทำ
- นำกระดาษหนังสือพิมพ์ทั้งหมดมาซ้อนกัน หากจะใช้กระดาษห่อของขวัญให้วางไว้บนสุด
- นำกระดาษมาครอบลงบนศรีษะเด็ก รัดด้วยเทปกาวบริเวณหน้าผาก
- ตัดเล็มขอบให้โค้งมน
- ม้วนขอบขึ้นติดด้วยเทปกาวจนครบรอบ
- หากจะพ่นสีควรเป็นสีทึบเพื่อปิดรอยหมึกพิมพ์
- เจาะรูรอบๆขอบหมวก แล้วร้อยเชือกหรือโบว์เพื่อตกแต่งให้สวยเก๋
- เจาะด้านข้างหมวกเพื่อใส่สายรัดคางกันหลุดค่ะ ..ก็หมวกหนูเบามากนี่นา
ตุ๊กตาห้อยขา
อุปกรณ์
- กล่องนม หรือ กล่องน้ำผลไม้
- กระดาษโปสเตอร์สีสวยเพื่อห่อกล่อง 2 สี
- กระดาษโปสเตอร์สีดำชิ้นเล็กๆ เพื่อทำรองเท้า
- ไหมพรม เพื่อเป็นส่วนผม
- ลูกตาดุ๊ดดิ๊ก
- กาว , กรรไกร
วิธีทำ
- กล่องนม หรือ น้ำผลไม้ที่ดื่มหมดแล้วนำมาล้างให้สะอาด (อย่าตัดด้านบนของกล่องออก ควรตัดด้านหูกล่องเพียงข้างเดียว)
- เมื่อกล่องแห้งดีแล้ว นำมาห่อด้วยกระดาษโปสเตอร์สีที่ต้องการ ใช้กาวติดด้านที่พับหัว-ท้ายให้เรียบสนิท
- ทำส่วนขา และ แขน ตัดการดาษเป็นแถบยาว 10 นิ้ว และ 6 นิ้ว ตามลำดับ สร้างรอยหยักโดยพับสลับด้านเหมือนทำพัด
- ใช้กาวติดแขนทั้งสองที่ด้านข้างกล่อง และติดขาทั้งสองที่ด้านใต้กล่อง
- ตัดกระดาษโปสเตอร์สีดำเป็นสีเหลี่ยมเล็กๆติดที่ปลายเท้าทั้ง 2 ข้าง เพื่อแทนรองเท้า
- แต่งหน้า โดยติดตาดุ๊ดดิ๊ก และวาดปาก
- ใช้ไหมพรมตกแต่งทรงผมตามชอบ อาจเพิ่มดอกไม้เล็กๆหรือโบว์
Tips: วางตุ๊กตาบนชั้นจัดให้ขาห้อยลงมาจะเป็นการแต่งห้องที่น่ารักมากค่ะ |
Fast Math สุดยอดการคูณ 11
หลักการง่ายๆ ครับ เริ่มกันเลย
เช่น 18x11= ?
43x11=?
85x11=?
63x11=?
วิธีคิดง่ายๆ นะครับ ตัวเลข สองหลักใดๆ ก็ตาม คูณด้วย 11
เช่น 63x11
จะได้เลข 3 หลักคือ ร้อย ก็ให้แยก 6 กะ 3 ออก เหลือตัวเลขหลัก สิบ 10
วิธีการหาหลัก สิบก็คือ นำตัวเลขสองตัวนั้น บวกกัน เช่น 6+3 จะได้ 9
คำตอบที่ได้คือ 693
อีกตัวอย่าง
85x11
จะได้ 8 ___5
นำ 8+5 =13
จะได้ 935 คำตอบ นำเลข 1 หน้าเลขสามบวกกับตัวเลขหลักร้อยของคำตอบ
หวังว่าคง งงกันนะครับ 555+ ถ้างง ดูตามภาพนะครับ
ลองดูนะครับ อันนี้ผมเคยทดสอบแค่ ตัวเลขสองหลัก คูณ 11
สำหรับใครลองแบบอื่น เอามาบอกกันด้วยนะครับ
สอนคณิตศาสตร์ให้ลูก
ความจริงคณิตศาสตร์เป็นเรื่องสนุก คณิตศาสตร์ไม่ใช่เรื่องตัวเลขที่หลายคนลายตา หัวใจของคณิตศาสตร์สอนให้คนรู้จักคิด มีเหตุมีผล รู้ประมาณ รู้ขอบเขต รู้ว่าอะไรเป็นไปได้ อะไรเป็นไปไม่ได้ คณิตศาสตร์สอนให้คนมองอะไรกว้างขึ้น และยังมองลึกกว่าคนทั่วไป ตัวเลขของคณิตศาสตร์เป็นเพียงบันใดที่จะไต่ไปสู่เป้าหมายที่กล่าวข้างต้น
สมมุติว่ามีคนมาบอกว่า " พาราเซตตามอลเป็นยาแก้ปวดที่ปลอดภัยที่สุด " คนทั่วไปก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ปลอดภัยก็ปลอดภัย ปลอดภัยก็กิน แต่คนที่เข้าใจคณิตศาสตร์ กลับมองไปอีกอย่าง คงอยากทราบใช่ไหมว่ามองอย่างไร
การที่บอกว่า พาราเซตตามอลเป็นยาแก้ปวดที่ปลอดภัยที่สุด คำว่า " ที่สุด " ก็แปลว่า ยังมียาแก้ปวดอย่างอื่นให้เราเลือกใช้อีก ยาแก้ปวดไม่ได้มีแต่พาราเซตตามอลอย่างเดียว
คำว่า " ปลอดภัยที่สุด " ไม่ได้แปลว่าปลอดภัย 100 % ปลอดภัยที่สุด แปลได้เพียงว่า ในบรรดายาแก้ปวดที่มีอยู่ ยาพาราเซตตามอลปลอดภัยกว่ายาแก้ปวดตัวอื่นๆ ความปลอดภัยอาจแค่ สมมุติว่า 90 % คนเข้าใจคณิตศาสตร์จะถามต่อว่า แล้วที่ไม่ปลอดภัยหรือที่ต้องระมัดระวังมีอะไรบ้าง
ถ้าสมมุติว่า พาราเซตตามอลปลอดภัย 90 % แต่ยาแก้ปวดอีกตัวที่ปลอดภัยรองลงมา มีความปลอดภัย 85 % แต่ราคากำละ 1 บาท (หนึ่งกำมีตั้งหลายสิบเม็ด) ในขณะที่พาราเซตตามอล เม็ดละหนึ่งบาท บางทีเราอาจไม่เลือกพาราเซตตามอลก็ได้
เห็นไหมครับว่าคนเข้าใจคณิตศาสตร์มองอะไรๆ ได้กว้างกว่า คิดอะไรๆ ได้ลึกกว่าคนธรรมดาทั่วไป ดังนั้นจึงไม่แปลกที่คนเรียนคณิตศาสตร์ได้ดี จึงมักเรียนวิชาอื่นได้ดีด้วย ทั้งนี้ก็เพราะคณิตศาสตร์ สอนให้รู้จักคิด รู้จักประยุกต์ความเข้าใจ จึงทำให้เรียนและเข้าใจวิชาอื่นได้ดีกว่าคนที่ไม่ชอบคณิตศาสตร์
การที่จะทำให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์ได้นั้น ต้องปลูกฝังตั้งแต่เด็ก พ่อแม่จึงต้องเป็นครูคณิตศาสตร์ คนแรกของลูก พูดอย่างนี้หลายคนตกใจว่าเราเองก็แย่เอาตัวไม่รอดอยู่แล้ว จะไปสอนคณิตศาสตร์ ให้ลูกได้อย่างไร
ความจริงไม่ใช่เรื่องยาก ท่านสามารถสอนลูกปลูกฝังลูกได้โดยลูกไม่รู้ตัว อย่างเช่น เวลาขับรถไปส่งลูกที่โรงเรียน ถ้าลูกยังเล็กอยู่ก็ให้อ่านตัวเลขทะเบียนรถ ถ้าโตขึ้นมาหน่อย ก็ลองให้ลูกบวกลบตัวเลขทะเบียนรถ ถ้าลูกโตขึ้นมาอีก ก็อาจกำหนดคำตอบแล้วให้ลูก ใช้ตัวเลขทะเบียนรถมาบวกลบคูณหารให้ได้ตรงคำตอบหรือใกล้เคียงที่สุด หน้าปัดความเร็วรถ คุณก็สามารถสอนเรื่องความเร็ว สอนเรื่องหน่วย ไมล์ กิโลเมตร นาฬิกาบนหน้าปัดรถ คุณก็สามารถสอนเรื่องเวลา นาที วินาที ชั่วโมง สอนเรื่องการอ่านเวลา สอนเรื่องการตรงต่อเวลา สอนเรื่องวงกลม สอนเรื่องการเคลื่อนที่ของเข็มยาว เข็มสั้น
เมื่อพาลูกไปซุปเปอร์มาร์เก็ต ถ้าเป็นเด็กเล็กคุณก็สามารถสอนเรื่องรูปทรงต่างๆ รูปทรงกลม ทรงเหลี่ยม จากป้ายราคา คุณก็ยังสามารถสอนเรื่อง บาท สตางค์ สอนเรื่องโหล กุรุส ราคาต่อหน่วย ของชนิดเดียวกันต่างยี่ห้อเปรียบเทียบว่าอันไหนถูกกว่าอันไหนแพงกว่า ถ้าเด็กโตขึ้นมาหน่อย ก็อาจให้ลองบวกเลขรวมจำนวนเงินที่ต้องจ่าย ถ้าให้ธนบัตรเท่านี้ จะได้รับเงินทอนเท่าไหร่ หยิบน้ำปลามาหนึ่งขวดคุณจะสอนอะไรให้กับลูกได้บ้าง เริ่มจากรูปทรงของขวด ถ้าเด็กโตขึ้นมาหน่อย ก็สอนเรื่องปริมาตร ลิตร ซีซี ถ้าเด็กโตขึ้นมาอีกหน่อย เปอร์เซ็นต์ส่วนประกอบของน้ำปลา ราคาที่ประหยัดกว่าเมื่อซื้อขวดใหญ่ เมื่อเทียบกับซื้อขวดเล็ก คุณพ่อคุณแม่สามารถทำให้ การไปซุปเปอร์มาร์เก็ตเกิดความสนุกสนาน และเกิดการเรียนรู้ไปด้วย
เห็น ไหมครับสิ่งรอบตัวคุณสามารถนำมาประยุกต์สอนเด็กได้ เป็นการปลูกฝังให้เด็ก รักคณิตศาสตร์โดยไม่รู้ตัว และไม่ต้องกลัวว่าคุณจะสอนไม่ได้ เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องพื้นๆ สำหรับผู้ใหญ่ทั่วไปที่ต้องรู้อยู่แล้ว อยู่ที่ตัวท่านจะเอาใจใส่แค่ไหนมากกว่าเมื่อเด็กรักคณิตศาสตร์ ชอบคณิตศาสตร์ เมื่อโตขึ้นเด็กก็จะขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติมเอง คณิตศาสตร์ก็จะไม่เป็นยาขม ของเด็กอีกต่อไป ขอขอบคุณ: นายแพทย์รุ่งโรจน์ ตรีนิติ
http://www.clinicrak.com
Mathematic ของวัยซน
เมื่อเจ้าตัวเล็กเริ่มท่องเลขได้ คนเป็นพ่อแม่ก็พากันปลื้มค่ะ ครั้นท่อง One Two Three…ได้อีก คราวนี้ปลื้มกันสุดๆ เชียวล่ะ แม้พอถามว่าลูกเข้าใจความหมายที่แท้จริงหรือเปล่า ว่า 1 และ 2 คืออะไร ถ้าเป็นผลไม้จะมีสักกี่ผล หรือเป็นสิ่งของจะมีสักกี่ชิ้น แล้วได้คำตอบ “ไม่รู้” ก็ตาม การเรียนรู้ คณิตศาสตร์ของลูกไม่ใช่แค่ท่องจำตัวเลข 1 2 3 4…10 หรือ 1 + 1 = 2 เท่านั้น แต่คณิตศาสตร์ คือการเรียนรู้เรื่องอื่นๆ เมื่อเขาเติบโตขึ้น |
ที่ สำคัญทุกสาขาอาชีพก็ต้องล้วนเกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์ไม่ว่าจะเป็นวิทยา ศาสตร์ ฟิสิกส์ บัญชี เทคโนโลยี การเมือง การปกครอง การทำนา ล้วนมีคณิตศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้องทั้งสิ้น |
Mathematic Growing เมื่อรู้ของเขตแล้วก็ส่งเสริมเจ้าตัวเล็กได้ตั้งแต่แรกเกิดค่ะ ลูก สามารถสร้างพื้นฐานทางคณิตได้ก่อนที่จะบวกหรือลบเป็นเสียอีก เขาสามารถเชื่อมโยงความคิดกับตัวเลขด้วยการตีความง่ายๆ เรียนรู้ว่ามีจมูกหนึ่งจมูก มีตาสองตา รู้จังหวะเคลื่อนไหวจากการคลาน ซึ่งความสามารถทางคณิตศาสตร์ของลูกถูกพัฒนาด้วยการกระตุ้นหรือการมีปฏิ สัมพันธ์กับพ่อแม่ คนรอบข้างและสิ่งแวดล้อมรอบตัว สิ่งเหล่านี้จึงเป็นบันไดสำคัญที่จะพัฒนาไปสู่การเรียนรู้คณิตศาสตร์ของเจ้า ตัวเล็กในช่วงวัยต่อไปค่ะ ขวบปีที่สอง เรียน รู้สิ่งที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น สามารถจัดประเภทสิ่งของได้ทำให้ลูกเข้าใจจำนวน ตัวเลข รู้จักนับนิ้วมือ 1 2 3 เรียนรู้ความแตกต่างของรูปทรง การจับคู่ รู้จักการใช้เหตุผล มีจินตนาการและเห็นการเชื่อมโยงของสิ่งหนึ่งกับอีกสิ่งหนึ่ง เช่น เมื่อตีกลองเขารู้ว่าจะต้องมีเสียงดัง สิ่งเหล่านี้พ่อแม่ต้องกระตุ้นลูกบ่อยๆ จะทำให้เขาเข้าใจความหมายและรู้จักนำจินตนาการมาใช้ได้ดีขึ้น ขวบปีที่สาม ลูก จะเห็นการจับคู่เป็นเรื่องง่ายแล้วค่ะ วัยนี้จึงควรจัดกิจกรรมให้เด็กๆ ได้ใช้ทั้งความคิด ความมีเหตุผล และเห็นการเชื่อมโยงกันให้มากขึ้น เช่น ลูกมีตุ๊กตากี่ตัวจ๊ะ ลูกต้องการรถกี่คัน หรืออาจจะให้ลูกช่วยจัดโต๊ะอาหาร ให้อาหารสัตว์ หรือไปซื้อของ ลูกจะได้เรียนรู้ การจัดหมวดหมู่ การเปรียบเทียบ การจัดวาง เป็นต้น คาร์ล เฟรดริช เกาส์ นักคณิตศาสตร์ที่สำคัญที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ กล่าวว่า “คณิตศาสตร์ไม่ใช่ความรู้ แต่เป็นการเรียนรู้ที่ให้ความเพลิดเพลินสูงสุด” |
Fun+Learn in 7 Day การ เรียนรู้คณิตศาสตร์ของลูกเริ่มต้นจากการเล่นและการใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติ ค่ะ ซึ่งทุกกิจวัตรประจำวันถือเป็นโอกาสดีที่จะผสมผสานให้ลูกได้เรียนรู้และเข้า ใจถึงทักษะง่ายๆ และใกล้ตัว ฝึก ให้ลูกรู้จุกการนับจากชีวิตประจำวันขณะกิน เล่น เล่านิทาน เช่น การนับนิ้วมือ ช่วงแรกให้นับ 1-5 ก่อน แล้วเพิ่มเป็น 10 จากนั้นจึงค่อยเชื่อมโยงไปสู่ตัวเลขที่เป็นรูปธรรมเพื่อให้ลูกเห็นจำนวนที่ แท้จริงมากขึ้น ซึ่งนอกจาก ลูกจะได้เรียนรู้การนับแล้ว ยังได้เรียนรู้สรรพนามที่ใช้เรียกคน สัตว์ สิ่งของ และผลไม้ต่างๆ ซึค่งจะทำให้เขาเรียนรู้เรื่องของเซ็ท หรือการจัดหมวดหมู่ได้ง่ายขึ้นค่ะ เช่น 1 = ขนมเค้ก 1 ชิ้น 2 = กล้วย 2 ลูก 3 = หมวก 3 ใบ Tuesday : เรียนรู้ขนาด สอน ด้วยการเปรียบเทียบให้เห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ช่วงแรกใช้แค่ขนาดเล็ก-ใหญ่ก่อน ซึ่งอาจจะเป็นเสื้อผ้า ของเล่นหรือผลไม้ เช่น “กางเกงของลูกตัวเล็กกว่ากางเกงของแม่อีกค่ะ” หรือ “หนูว่าแตงโมกับส้ม ผลไม้ชนิดไหนใหญ่กว่ากัน” จากนั้นก็เอาของทั้ง 2 อย่างมาเปรียบเทียบให้ลูกดู Wednesday : เรียนรู้ปริมาณและน้ำหนัก ทำให้ลูกดูได้เรียนรู้มากกว่า น้อยกว่า หรือเท่ากัน เช่น การเทน้ำใส่แก้ว การตักทราบใส่ถัง เก็บของใส่กล่อง เช่น นำ แก้วสามใบ และนม แก้วใบแรกใส่นมเต็มแก้ว ใบที่สองใส่ครึ่งแก้ว และใบที่สามไม่ต้องใส่ ลองถามลูกว่าแก้วใบไหนเต็มใบไหนว่าง และใบไหนมีนมครึ่งแก้ว เด็กวัยนี้จะสามารถเรียนรู้ความหมายของคำว่าเต็ม และว่างเปล่า แต่บอกไม่ได้ว่าครึ่งแก้วเป็นอย่างไร หรืออาจเปรียบเทียบน้ำหนัก ด้วยการให้ลูกลองยกของที่มีน้ำหนักแตกต่างกัน แล้วถามว่าของสิ่งไหนหนักกว่ากัน Thursday : เรียนรู้รูปทรง การ เล่นแท่งบล็อก ลูกได้เรียนรู้ทั้งรูปทรง การเปรียบเทียบสีสัน ขนาด ตำแหน่งที่วาง การจัดหมวดหมู่ และการนับจำนวนโดยคุณแม่อาจตั้งคำถามให้ลูกคิด เช่น “มีแท่งบล็อกสี่เหลี่ยมกี่แท่งนะ” หรือ “ไหนหนูลองแยกแท่งบล็อกที่มีสีเหมือนกันซิค่ะ” Friday : เรียนรู้เวลา สอน ให้ลูกเรียนรู้จากสิ่งที่ง่ายก่อน เช่น ก่อน-หลัง เร็ว-ช้า วันนี้-พรุ่งนี้ ด้วยการพูดคุยกับลูก เช่น “ถ้าหนูเดินเร็วเราก็จะไปถึงสนามเด็กเล่นเร็ว แต่ถ้าเดินช้าก็ไปถึงช้า” หรือ “พรุ่งนี้วันเสาร์แม่จะพาลูกไปเที่ยวสวนสนุก ตอน 8 โมงเช้า ลูกอยากไปมั้ยจ๊ะ” Saturday : เรียน วัน เดือน ปี โดย เริ่มต้นให้ลูกเรียนรู้จากกิจกรรมง่ายๆ หรืออาจยกตัวอย่างเป็นวันสำคัญหรือเทศกาลต่างๆ เช่น ปีใหม่ สงกรานต์ ลอยกระทง มาให้ลูกฟังก็ได้ค่ะ ลูกจะได้จำจดได้ง่ายขึ้น เช่น “เดือนมกราคมนี้ก็จะถึงวันเกินของลูกๆ จะมีอายุครบ 2 ขวบแล้วนะ” หรือ “วันที่ 13 เมษายนนี้ จะเป็นวันสงกรานต์ แม่จะพาลูกไปเล่นสาดน้ำสนุกๆ กันนะ” Sunday : เรียนรู้จังหวะ ดนตรี คุณ สามารถฝึกประสบการณ์ทางคณิตศาสตร์ให้ลูกได้ด้วยการเรียนรู้จังหวะจากเครื่อง ดนตรีง่ายๆ เช่น กลอง ไซโลโฟนหรือเครื่องดนตรีอื่นๆ ที่ตีแล้วเกิดเสียง เช่น การตีกลองโต้ตอบกับลูก ครั้งแรกคุณลองตีกลอง 2 ครั้ง แล้วให้เจ้าตัวเล็กตีกลองรับ 2 ครั้ง แล้วค่อยเพิ่มเป็น 3 ครั้ง 4 ครั้ง หรือ 5 ครั้ง จากนั้นเปลี่ยนให้ลูกตีนำและคุณตีตามบ้าง สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ลูกเข้าใจการโต้ตอบจากจังหวะกลองได้ |
ขอขอบคุณ: นิตยสารรักลูก ปีที่ 25 ฉบับที่ 296 กันยายน 2550 |